วันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2556

ประวัติเเมว ^^

                                                                  ประวัติแมว

 



จากหลักฐานรูปปั้นแมว มัมมี่แมว และภาพเขียนผนังเกี่ยวกับแมวแล้ว เราเชื่อว่าได้มีการ
เลี้ยงแมวในอียิปต์ มาตั้งแต่โบราณกาล (ประมาณก่อนพุทธศักราช 2,600 ปี)อียิปต์เป็นชาติแรก
ที่ฝึกแมว ซึ่งเดิมเป็นสัตว์ป่าให้เชื่อง และเลี้ยงแมวไว้ในบ้านเพื่อช่วยจับหนู ช่วยให้พีชพรรณ
ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ปราศจากหนูรบกวน เมื่อแมวอียิปต์ ถูกพาลงเรือสินค้าแล่นไปในทะเล
เมดิเตอร์เรนียน เพื่อให้ช่วยจับหนูในเรือ เมื่อเรือจอด แมวอาจเดินขึ้นจากเรือ เพื่อเดินหยียด
แข้งขา หรืออาจ แวะชมสิ่งน่าสนใจ จนลืมกลับลงเรือ แมวจึงแพร่พันธุ์ไป ในประเทศต่างๆทั่วโลก

มาดู!! แมวพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

                                                       แมวพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก


แมวพันธุ์ เมนคูน (MAINE COON)แมวพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ประวัติที่มา
เป็นแมวลูกผสมที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในสหรัฐอเมริกา เชื่อกันว่าเกิดจากแมวที่ผสมพันธุ์กันในอเมริกา
มีการบันทึกกันไว้ว่า พระนางมารี อังตัวเน็ต พระราชินีของ พระราชาฝรั่งเศส ได้ส่งทั้งของและเจ้าพวกสัตว์เลี้ยง เช่น แมวเมนคูน ของพระนางไปก่อนล่วงหน้าก่อน ตอนที่พระนางเตรียมหนี จากพวกปฏิวัติในฝรั่งเศส เข้ามหาสมุทรแอตแลนติกไปอเมริกา
ต้นชื่อที่เรียกว่า เมน นั้น เพราะแม่พันธุ์นี้ ได้พบกันครั้งแรกตอนที่มันมาขึ้นฝั่ง ที่รัฐ ริมมหาสมุทรแอตแลนติก ด้านอเมริกาเหนือคือ รัฐเมน ส่วนชื่อ คูน ท่อนหลังนั้นน่า จะมาจากพวงหาง ของเจ้าแมวพันธุ์ที่ว่าที่มีหางเป็นพวงเหมือนตัวแรคคูนที่มีอยู่ในทวีปอเมริกา
เจ้าแมวเมนคูน เป็นแมวที่ได้จากการผสมของตัวแรคคูน กับแมวบ้าน จึงมีชื่อว่า
” MaineCoon ”
ซึ่งมาจากชื่อเมือง Maine กับคำว่า Raccoon
ลักษณะโดยทั่วไป
แมวเมนคูน เป็นแมวช่างสงบเสงี่ยม มีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรง จัดเป็นแมวที่มีพละกำลังมากพันธุ์หนึ่งและมีลักษณะนุ่มนวล เป็นมิตรกับผู้คน
ลักษณะประจำพันธุ์
เป็นแมวที่มีลำตัวหนาหนักแน่น รูปร่างค่อนข้างใหญ่ ผิวขนคล้ายเชือกพันเป็นเกลียว( มองดูคล้ายแมวพันธุ์เปอร์เซีย ) มีขนขึ้นปกคลุมหนาแน่น ขนยาวไม่มากนัก บางตัวอาจมีขนาดใหญ่น้ำหนักตัวถึง 13.5 กิโลกรัม
หัวมีขนาดกลาง หน้าเป็นเหลี่ยม ใบหน้าราบแบน แก้มอยู่ในตำแหน่งที่สูง มีโครงกระดูกแก้มใหญ่ มีหูใหญ่และเป็นแมวที่มีรูปร่างสูง ตายาวติดกับบริเวณช่องจมูก จมูกเล็ก ช่วงขาแข็งแรง เท้ากลมมน ขนยาวและมีน้ำหนัก ลักษณะขนที่มีน้ำมันในตัวจึงไม่ค่อยเปียกน้ำ ปลายหางขนหยาบ ขึ้นหนาแน่นรกรุงรัง แต่ขนไม่ยาวนัก
บริเวณรอบลำคอ โคนใบหูขนมักพันเป็นกระจุก สีต้นตระกูลของแมวนี้ ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเงิน สีเหลือง ลูกนัยน์ตาเป็นรูปไข่ลาดเอียง ลูกนัยน์ตาสีเขียวเป็นประกาย





ที่มา   http://board.postjung.com/588389.html

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

แมวที่แพงที่สุดในโลก

                             แมวอาชีร่า (ashera cat) อะชีรา

แมวอาชีร่า

             แมวอาชีร่า เป็นแมวขนาดใหญ่ มีหน้าตาลม้ายค่อนคล้ายเสือ เป็นแมวสายพันธ์ใหม่ ที่มีการผสมผสานระหว่างแมวป่าแอฟริกัน, เสือดาวเอเชีย และแมวบ้าน ตัวที่มีขนาดใหญ่ เมื่อโตเต็มที่มีน้ำหนักได้ถึง13.6 กิโลกรัมเลยทีเดียวทีมงานบริษัทแคลิ ฟอร์เนีย ไบโอเทค ซึ่งเป็นผู้เพาะแมวราคาแพงที่สุดในโลกสายพันธ์นี้ขึ้นมายังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า แมวอาชีร่านี้เป็นแมวที่เลี้ยงง่ายและเป็นมิตรมาก ถึงแม้หน้าตาจะดูดุไปซะหน่อย มันเป็นแมวที่มีความแสนรู้ เช่นสามารถที่จะเปิดประตูเองได้เป็นต้น ที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นก็คือแมวพันธ์นี้จะไม่มีนิสัยเหมือนแมวทั่วๆไป ที่ชอบหายไปนอกบ้าน แต่นิสัยมันกลับคล้ายสุนัขมากกว่า ชอบให้เจ้านายผูกเชือกจูงพาไปเดินเล่น จึงเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงประเภทใหม่เลย

        นอกจาก แมวพันธ์นี้แล้ว ทางผู้พัฒนากำลังดำเนินการเพาะแมวพันธุ์ใหม่ เช่น แมวทอยเกอร์ เป็นการผสมระหว่างแมวบ้านและเสือเบงกอล หรือเจ้าพันธ์โชซี่ เป็นสายพันธ์แมวป่าผสมแมวบ้าน และก็ยังมีแมวซาวานาห์ ที่เกิดจากแมวป่าจากทุ่งสะวันนาในแอฟริกาผสมกับแมวบ้าน เป็นต้น ซึ่งแมวแต่ละตัว แต่ละสายพันธ์ก็จะมีบุคลิก และลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไปด้วย

                ทีนี้กลับมาดูที่เจ้าแมวอาชีร่าที่ได้ชื่อว่าเป็นแมวที่แพงที่สุดในโลกก็เนื่องมาจากราคาเริ่มต้นที่ 22,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 682,000 บาทไทย) และยังมีแมวอาชีร่าแบบที่ป้องกันการแพ้ขนแมวได้ จะมีราคาเริ่มต้นที่ 28,000 ดอลลาร์ หรือ 870,000 บาท



แมวอาชีร่า



วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

พฤติกรรมของแมว

                                    การแสดงออกของใบหน้า


หู
              
เป็นจุดที่ไวมาก หูจะถูกยกยื่นไปข้างหลัง เป็นการเตือนที่จะสู่โจมศัตรูในกรณีที่หู โค้งกลับและถูกดึงให้ต่ำลงข้างๆ เป็นสัญญาณของการป้องกันตัวและพร้อมที่จะต่อสู้
หนวด
              
ให้ดูจากตำแหน่างการกระจายตัวของหนวด ถ้าหนวดแผ่ออก แมวกำลังเครียด หรือสนใจอะไรบางอย่าง แต่ถ้าหนวดดูลาดและรวบไปไว้ข้างแก้มแมวจะอยู่ด้านหลังเป็นพุ่มแสดงถึงความสงบสบายใจ
ลูกตาดำ
              
ม่านดกที่หดเล็กลงจะแสดงถึงความตึงเครียดหรือสนใจอะไรอย่างหนึ่งอย่างใดอย่างมาก ในกรณีที่ม่านตกเปิดกว้าง มันแสดงถึงความประหลาดใจ กลัวหรือเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันตัว
การหาว
              
ไม่ใช่การติดต่อของเชื้อโรคหรือแสดงอาการง่วงนอนที่เกิดกับมนุษย์ แต่มันเป็นสัญญาณที่แสดงถึงความแน่ใจ การแสดงออกแบบนี้เหมือนกับมันจะพูดว่า "ฉันรู้สึกสบายดีนะและคุณคงเป็นอย่างฉันด้วย"

วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 อันดับ พันธุ์แมวที่สวยที่สุด




อันดับที่ 10 ได้แก่ แมงซ์ (Manx) แมวไม่มีหาง




อันดับที่ 9 ได้แก่ อเมริกันขนสั้น (อังกฤษ: American Short Hair) พันธุ์อเมริกันขนสั้น
(อังกฤษ: American Short Hair) เป็นแมวที่ถูกนำมาจากยุโรปไปสู่แผ่นดินอเมริกาเหนือ
 เมื่อครั้งมีการโยกย้ายถิ่นฐานของคนยุโรปไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ แมวถูกนำลงเรือไปเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากมันในการล่าหนูมิให้ทำลายข้าวของซึ่งที่นำไปด้วยนั้นมีหลายตัว และได้ผสมพันธุ์กันจนได้ลูกที่มีลักษณะเฉพาะออกมาให้เห็นอย่างปัจจุบัน เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวใหญ่โต มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ยาวขนาดปานกลาง ใบหูขนาดกลางและขอบเป็นทรงกลมมน หัวรูปไข่แต่มีคางที่ค่อนข้างใหญ่ชัดเจน ดวงตาแมวพันธุ์นี้กลมโต ขอบตาด้านนอกด้านบนจะโค้งลงมา สีของตาเป็นสี

อันดับที่ 8 ได้แก่ ชอซี (Chausie) แมวที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธ์

อันดับที่ 7 ได้แก่ เทอร์คิชแองโกรา (Turkish Angora) เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศตุรกี ที่ได้รับ
ชื่อ Angora ต่อท้าย เนื่องจากเป็นแมวตุรกีขนยาวจากเมืองแองโกรานั่นเอง
 
อันดับที่ 6 ได้แก่ แร็กดอลล์ (Ragdoll ) แร็กดอลล์มีลักษณะเหมือนตุ๊กตาผ้า เวลาอุ้มขึ้นมาก็ทำตัวอ่อนเหมือน
ไม่มีกระดูก ขนบริเวณเอวแน่นฟู ที่สำคัญ แมวพันธุ์นี้คล้ายกับสวมถุงเท้าด้วยบริเวณเท้าจะด่างขาวดูเหมือนกับใส่ถุงเท้าอยู่ มีเสียงร้องที่เบามาก และเป็นแมวที่ชอบความเงียบ

อันดับที่ 5 ได้แก่ ทอยเกอร์ (Toyger) เป็น แมวสายพันธุ์ หนึ่งที่ได้รับการพัฒนาผสมข้ามสายพันธุ์โดย
Judy Sudgen แมว ทอยเกอร์ (Toyger) แมว ที่เหมือนเสือที่สุด

อันดับที่ 4 ได้แก่ เปอร์เซียน (Persian) เปอร์เซียน เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรืออิหร่าน
ถูกนำไปเลี้ยง ในประเทศต่าง ๆ ทั้งใน ยุโรปและอเมริกาเป็นเวลาเกือบร้อยปีมาแล้ว สำหรับประเทศไทยจัดเป็นแมวต่างประเทศ พันธุ์แรกที่ถูกนำมาเผยแพร่ เนื่องจากเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน สุขุมเข้ากับคนง่าย มี ความร่าเริงซุกซน ชอบประจบประแจงและมีไหวพริ

อันดับที่ 3 ได้แก่ Ashera มีการผสมแมวพันธุ์ใหม่Asheraออกขาย ในราคาแพงลิบลิ่ว Ashera ราคาตัวละ
 เจ็ดแสนกว่า เมื่อคุณสั่งซื้อและจ่ายเงินเรียบร้อย ก็ต้องรอเขาผสม และส่งให้ ในเวลา 9 ถึง 12 เดือน หากต้องการเร็วเขาก็จะลัดคิวให้ แต่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก เกือบ 2 แสน เขาก็จะส่งถึงบ้านเลย สรุปแล้วตัวละเกือบล้านทีเดียว ทางผู้ผสมพันธุ์เขาตั้งเป้าไว้ แค่ปีละ 100 ตัวทั่วโลก แต่ให้เฉพาะในอเมริกาก็ 50 ตัวแล้ว ที่เหลือ เศรษฐีประเทศต่างๆต้องแย่งกันเอาเอง 

อันดับที่ 2 ได้แก่ The Sandcat เป็นแมวรูปร่างเล็กมีความยาวเกือบ 50 ซม. เติบโตในทะเลทราย สามารถ
อยู่รอดใน อุณหภูมิ ตั้งแต่ -5 องศา C (23 องศา F) 52 องศา C (126 องศา F)

อันดับที่ 1 ได้แก่ สก็อตทิช โฟลด์(Scottish Fold) เป็นแมวที่มีถิ่นกำเนิดมาจากสกอตแลนด์ เป็นแมว
ขนาดกลาง ศีรษะกลม หูพับหรือตั้ง บางตัวหูจะพับเพียงครึ่งเดียว พับ 2 ส่วนหรือพับ 3 ส่วน จะมีทั้งขนสั้นและขนยาว ลักษณะของหัวเพศผู้จะมีลักษณะกลมโตกว่าหัวของตัวเมีย สำหรับอุปนิสัยจัดเป็นแมวที่มีความสุภาพ เรียบร้อย ไม่ซนอารมณ์ดี ขี้เล่น มีความกระตือรือร้น ชอบคลอเคลีย, ขี้อ้อนและขี้ประจบเจ้าของ